ตะลึงแลบุโรพุทโธ๔
บุโรพุทโธ หรือบรมพุทโธ เขียนในภาษาอังกฤษว่า BOROBUDUR ในเอกสารเก่าแก่ภาษาชวา เรียกสถานที่นี้ว่า NAGARAK RETAGAMA
บุโรพุทโธเป็นพุทธสถานฝ่ายมหายาน สร้างโดยกษัตริย์ราชวงศ์ไศเลนทร์ สมัยอาณาจักรศรีวิชัย สันนิษฐานว่าใช้เวลาสร้างประมาณ ๗๐-๘๐ ปีระหว่างพศ. ๑๓๒๑ – ๑๓๙๙ (ก่อนนครวัด ๓๐๐ ปี และก่อนโบสถ์นอสเตรอะดาม ๒๐๐ ปี)
ในยุคนั้นทั้งศาสนาพุทธและฮินดูคงเจริญรุ่งเรืองอย่างมากบนเกาะชวา และคงได้รับการอุปถัมภ์อย่างดีจากกษัตริย์ เห็นได้จากศาสนาสถานอันงดงามทั้งพุทธและฮินดูถูกสร้างขึ้นในยุคเดียวกันหลายแห่ง ที่งดงามและยิ่งใหญ่พอ ๆ กันก็คงจะเป็น SHIVA PRAMBANAN ของฮินดู และบุโรพุทโธของพุทธ ซึ่งอยู่ห่างกันเพียง ๑๐ กิโลเมตร
บุโรพุทโธตั้งอยู่ทางตอนกลางของเกาะชวา ห่างเมืองย็อกยาการ์ตาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ๔๐ กิโลเมตร บนที่ราบ KEDU ระหว่างภูเขาไฟ ๒ คู่ คือ SUNDORO-SUMBING และ MERBABU-MERAPI และแม่น้ำ ๒ สายซึ่งเปรียบเสมือนคงคากับยมุนาแห่งชวา คือ PRAGO และ ELO
ไม่มีการระบุแน่ชัดว่าบุโรพุทโธถูกทิ้งไปด้วยสาเหตุใด แต่คาดว่าประมาณ ปีพศ.๑๔๗๑ หรือประมาณ ๗๐ ปีหลังจากสร้างเสร็จสมบูรณ์ สถานที่แห่งนี้ก็ค่อย ๆ ลดความสำคัญลง อาจเป็นเพราะศูนย์กลางแห่งอำนาจของอาณาจักรศรีวิชัยถูกย้ายไปอยู่ทางภาคตะวันตก หรืออิทธิพลของศาสนาอิสลามที่เข้ามา หรือจะเป็นเพราะภูเขาไฟที่อยู่ใกล้เคียงเกิดระเบิด หรือทั้งหมดที่ว่ามาก็เป็นได้
พุทธสถานอันยิ่งใหญ่งดงามนี้มาถูกค้นพบโดยอังกฤษเจ้าอาณานิคมระหว่างปีพศ.๒๓๕๔-๒๓๕๙ หลังจากนั้นก็ใช้เวลานานมากกว่าจะได้บูรณะให้งดงามอย่างที่เห็นในวันนี้ เพราะเจ้าอาณานิคมไม่ว่าอังกฤษหรือดัทช์ไม่ได้สนใจจริงจัง มีอยู่ยุคหนึ่งเจ้าอาณานิคมถึงกับไปสร้าง teahouse ไว้พักผ่อนดื่มน้ำชาอยู่บนยอดเจดีย์องค์ใหญ่เสียด้วยซ้ำ
ในหนังสือชื่อ Borobudur : Golden Tales of the Buddhas ที่เขียนโดย John Miksic เขียนไว้ว่า เมื่อปีพศ.๒๔๓๙ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ของเราเสด็จชวา และได้รับของบรรณาการเป็นรูปปั้นจากบุโรพุทโธถึง ๘ เล่มเกวียน ในนี้มี ภาพแกะสลักจากหิน ๓๐ ภาพ พระพุทธรูป ๕ องค์ สิงโต ๒ ตัว สัตว์ประหลาดที่อ้าปากคายน้ำฝนอีก ๑ ตัว นอกนั้นก็มีหน้ากาลจำนวนหนึ่ง รวมทั้งทวารบาลที่ค้นพบจาก Bukit Dagi เนินเขาซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือหลายร้อยเมตร ในหนังสือระบุว่า สิงโตและทวารบาลจากชวาเหล่านี้ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
บุโรพุทโธเริ่มได้รับการบูรณะอย่างจริงจังเมื่อปีพศ. ๒๔๙๘ เมื่อรัฐบาลอินโดนีเซียได้ร้องขอการสนับสนุนจากองค์การยูเนสโก เสร็จสมบูรณ์เปิดให้คนทั้งโลกเข้าชมได้เมื่อปีพศ.๒๕๑๖ ใช้งบประมาณ ๒๕ ล้านเหรียญสหรัฐ ลองเปรียบเทียบเวลาในการสร้างซึ่งอยู่ในศตวรรษที่ยังต้องใช้แรงงานทั้งหมด กับเวลาในการบูรณะซ่อมแซมท่ามกลางเทคโนโลยีและเครื่องทุ่นแรงสมัยใหม่ ก็จะเห็นได้ว่า บุโรพุทโธนั้นยิ่งใหญ่เหลือจะกล่าว
ปีพศ. ๒๕๓๔ องค์การยูเนสโกประกาศยกย่องให้บุโรพุทโธเป็นมรดกโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น