ทรัสต์ ซิตี้ บางนา
Trust City Project In Thailand
Trust city Chinese Version
BIZLive : ทุนจีน ทุ่ม 8 หมื่นล้าน ผุดเมืองค้าส่ง “ทรัส ซิตี้” 07/09/2017
Trust city Final000
Trust City Bang Na
โกดังทรัสต์ ซิตี้ (บางนากม.19) ติดถนนใหญ่
อภิมหาโปรเจค...ที่บางนา....กม.29
ข่าวเด่น WBTV โครงการ Trust City วางศิลาฤกษ์เริ่มก่อสร้าง
The Trust City งามวงศ์วาน 25, แยก 13 (เดอะทรัสซิตี้ งามวงศ์วาน 25)
Global Trader City Concept
Trust City ต่อยอดธุรกิจ เปิดตัวหลักสูตร “To Be A Global Trader @Trust City” ปั้นสตาร์ทอัพหน้า
ใหม่
เปิดกรุที่ดินบางนารับอีอีซี
วันที่ : 8 พฤษภาคม 2562
"เบสท์โอเชียนกอล์ฟ" ดึง 5 บิ๊กทุนตปท.ปั้น "ทรัสต์ซิตี" บนพื้นที่ 500 ไร่ ย่านบางนา กม. 29 กว่า 7หมื่นล้าน ผุดศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ โรงแรม ที่พักอาศัย เชื่อกระตุ้นจีดีพีโตไม่น้อยกว่า 2%
"เบสท์โอเชียนกอล์ฟ" ดึง 5 บิ๊กทุนตปท.ปั้น "ทรัสต์ซิตี" บนพื้นที่ 500 ไร่ ย่านบางนา กม. 29 กว่า 7หมื่นล้าน ผุดศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ โรงแรม ที่พักอาศัย เชื่อกระตุ้นจีดีพีโตไม่น้อยกว่า 2%
คึกคักขึ้นตามลำดับสำหรับ ทำเลแนวถนนบางนา-ตราด แลนด์ลอร์ดเริ่มนำที่ดินออกพัฒนาโครงการขนาดใหญ่เชื่อมโยง ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกหรืออีอีซี
นายสิทธิชัย เจริญขจรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบสท์ โอเชียนกอล์ฟ จำกัด เจ้าของโครงการเบสท์โอเชียนกอล์ฟและสถาบันการบินเอเชีย "Best Ocean Airpark" ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่เกือบ 500 ไร่ย่านบางนา กม. 29 เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าอยู่ระหว่างการเร่งพัฒนาโครงการ "ทรัสต์ซิตี" บนพื้นที่ 500 ไร่ช่วงถนนเทพรัตน กม. 29 (บางนา) โดยดึงแหล่งทุนขนาดใหญ่จากต่างประเทศร่วมลงทุนซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาเงื่อนไข ได้แก่ ทุนจากมาเลเซีย ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และสิงคโปร์
"บางกลุ่มอยากได้สิทธิ์บริหารโครงการทั้งหมด แต่ไม่ได้ปิดกั้นทุนไทย สามารถเข้ามาร่วมพัฒนาได้เนื่องจากเป็นโครงการใหญ่ที่จะต้องร่วมมือกัน เบื้องต้นอยากให้เห็นภาพชัดเจนเกี่ยวกับข้อกฎหมายเรื่องการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนจากต่างประเทศที่จะต้องมีเงินหมุนเวียนเข้า-ออกตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดซึ่งยังเป็นอุปสรรคสำหรับการลงทุนในประเทศไทย"
ประการสำคัญประเทศไทยเหมาะอย่างยิ่งเนื่องจากเป็นศูนย์กลางของอาเซียนและของโลก จึงต้องการให้ทรัสต์ซิตี้เป็นศูนย์รวมสินค้าของโลก อยู่ระหว่างการดึงแหล่งทุนต่างๆมาลงทุนในโครงการเนื่องจากใช้เงินลงทุนประมาณ 7 หมื่นล้านบาท เบื้องต้นจะแบ่งการลงทุนออกเป็น 2 เฟสเฟสแรกเอ็กซิบิชันเทรดเดอร์ จำนวน 200-400 ร้านค้า ส่วนเฟส 2, 3 จะเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว โดยเฟสแรกคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
"ปลายปีนี้จะเริ่มเห็นภาพการพัฒนาชัดเจนยิ่งขึ้น ใช้ระยะเวลาการพัฒนา 3-4 ปีเชื่อว่าจะสามารถสร้างจีดีพีของประเทศไทยเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 2%โดยพื้นที่ศูนย์แสดงสินค้าต้องดำเนินการก่อนเพื่อดึงผู้ประกอบการ และร้านค้าให้ได้มากที่สุด ส่วนพื้นที่อยู่อาศัยจะอยู่ถัดออกไปจากโซนนี้ เชื่อว่าจะสร้างงานสร้างรายได้ให้ก้าวสู่ระดับอินเตอร์เนชั่นแนลเทรดดิ้ง ชั้นนำของโลก"
เนื่องจากพื้นที่โครงการประมาณ 500 ไร่จึงมีแผนสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลเชื่อมจากถนนเทพรัตน(บางนา-ตราด) เข้าไปยังพื้นที่ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้การจับจ่ายสินค้าในโครงการ บริการห้องพักสะดวกสบายราคาย่อมเยาเพียงคืนละ 1,200 บาท พร้อมกับจัดระบบการชำระสินค้าด้วยเทคโนโลยีทันสมัยไว้รองรับ นั่นคือที่ทรัสต์ซิตีจะช่วยลดต้นทุนและเปิดโอกาสทางการค้าได้มากยิ่งขึ้น
"สะสมที่ดินในโซนบางนามากว่า 20 ปี เริ่มต้นมีแนวคิดจะพัฒนารูปแบบแวร์เฮาส์จัดเก็บสินค้า ปัจจุบันราคาที่ดินต่อไร่เพียง 7-8 ล้านบาท มูลค่าที่ดินประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่เมื่อพัฒนาครบทั้งโครงการจะเพิ่มมูลค่าได้อย่างมหาศาล ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งสถาบันสอนคนเป็นเถ้าแก่ให้ได้หลัก 1 แสนคน ลงทุนเริ่มต้น 5 หมื่นบาทต่อคน รูปแบบอะคาเดมีให้ได้เรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานไปสู่มืออาชีพ ลงลึกในภาคปฏิบัติจริง ได้เรียนรู้ว่าสินค้าเริ่มต้นจากไหนไปยังที่ไหน เรียนจบมีร้านค้าให้เริ่มต้นธุรกิจได้ทันที"
คึกคักขึ้นตามลำดับสำหรับ ทำเลแนวถนนบางนา-ตราด แลนด์ลอร์ดเริ่มนำที่ดินออกพัฒนาโครงการขนาดใหญ่เชื่อมโยง ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกหรืออีอีซี
นายสิทธิชัย เจริญขจรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบสท์ โอเชียนกอล์ฟ จำกัด เจ้าของโครงการเบสท์โอเชียนกอล์ฟและสถาบันการบินเอเชีย "Best Ocean Airpark" ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่เกือบ 500 ไร่ย่านบางนา กม. 29 เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าอยู่ระหว่างการเร่งพัฒนาโครงการ "ทรัสต์ซิตี" บนพื้นที่ 500 ไร่ช่วงถนนเทพรัตน กม. 29 (บางนา) โดยดึงแหล่งทุนขนาดใหญ่จากต่างประเทศร่วมลงทุนซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาเงื่อนไข ได้แก่ ทุนจากมาเลเซีย ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และสิงคโปร์
"บางกลุ่มอยากได้สิทธิ์บริหารโครงการทั้งหมด แต่ไม่ได้ปิดกั้นทุนไทย สามารถเข้ามาร่วมพัฒนาได้เนื่องจากเป็นโครงการใหญ่ที่จะต้องร่วมมือกัน เบื้องต้นอยากให้เห็นภาพชัดเจนเกี่ยวกับข้อกฎหมายเรื่องการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนจากต่างประเทศที่จะต้องมีเงินหมุนเวียนเข้า-ออกตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดซึ่งยังเป็นอุปสรรคสำหรับการลงทุนในประเทศไทย"
ประการสำคัญประเทศไทยเหมาะอย่างยิ่งเนื่องจากเป็นศูนย์กลางของอาเซียนและของโลก จึงต้องการให้ทรัสต์ซิตี้เป็นศูนย์รวมสินค้าของโลก อยู่ระหว่างการดึงแหล่งทุนต่างๆมาลงทุนในโครงการเนื่องจากใช้เงินลงทุนประมาณ 7 หมื่นล้านบาท เบื้องต้นจะแบ่งการลงทุนออกเป็น 2 เฟสเฟสแรกเอ็กซิบิชันเทรดเดอร์ จำนวน 200-400 ร้านค้า ส่วนเฟส 2, 3 จะเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว โดยเฟสแรกคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
"ปลายปีนี้จะเริ่มเห็นภาพการพัฒนาชัดเจนยิ่งขึ้น ใช้ระยะเวลาการพัฒนา 3-4 ปีเชื่อว่าจะสามารถสร้างจีดีพีของประเทศไทยเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 2%โดยพื้นที่ศูนย์แสดงสินค้าต้องดำเนินการก่อนเพื่อดึงผู้ประกอบการ และร้านค้าให้ได้มากที่สุด ส่วนพื้นที่อยู่อาศัยจะอยู่ถัดออกไปจากโซนนี้ เชื่อว่าจะสร้างงานสร้างรายได้ให้ก้าวสู่ระดับอินเตอร์เนชั่นแนลเทรดดิ้ง ชั้นนำของโลก"
เนื่องจากพื้นที่โครงการประมาณ 500 ไร่จึงมีแผนสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลเชื่อมจากถนนเทพรัตน(บางนา-ตราด) เข้าไปยังพื้นที่ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้การจับจ่ายสินค้าในโครงการ บริการห้องพักสะดวกสบายราคาย่อมเยาเพียงคืนละ 1,200 บาท พร้อมกับจัดระบบการชำระสินค้าด้วยเทคโนโลยีทันสมัยไว้รองรับ นั่นคือที่ทรัสต์ซิตีจะช่วยลดต้นทุนและเปิดโอกาสทางการค้าได้มากยิ่งขึ้น
"สะสมที่ดินในโซนบางนามากว่า 20 ปี เริ่มต้นมีแนวคิดจะพัฒนารูปแบบแวร์เฮาส์จัดเก็บสินค้า ปัจจุบันราคาที่ดินต่อไร่เพียง 7-8 ล้านบาท มูลค่าที่ดินประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่เมื่อพัฒนาครบทั้งโครงการจะเพิ่มมูลค่าได้อย่างมหาศาล ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งสถาบันสอนคนเป็นเถ้าแก่ให้ได้หลัก 1 แสนคน ลงทุนเริ่มต้น 5 หมื่นบาทต่อคน รูปแบบอะคาเดมีให้ได้เรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานไปสู่มืออาชีพ ลงลึกในภาคปฏิบัติจริง ได้เรียนรู้ว่าสินค้าเริ่มต้นจากไหนไปยังที่ไหน เรียนจบมีร้านค้าให้เริ่มต้นธุรกิจได้ทันที"
ปลายปีนี้จะเริ่มเห็นภาพการพัฒนาชัดเจนยิ่งขึ้นใช้ระยะเวลาการพัฒนา 3-4 ปีเชื่อว่าจะสามารถสร้างจีดีพีของประเทศไทยเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 2%
https://www.reic.or.th/News/RealEstate/439901
“ทรัสต์ซิตี้” พร้อมอวดโฉม 2020 เปิดคอร์สธุรกิจเสริมอาวุธคู่ค้า
“ทรัสต์ ซิตี้” อาณาจักรการค้าและศูนย์แสดงสินค้า ต่อยอดธุรกิจ เปิดตัวหลักสูตรการค้าปั้นสตาร์ตอัพหน้าใหม่ พร้อมอวดโฉมโครงการแสนล้านปลายปี 2020
นายสิทธิชัย เจริญขจรกุล ประธาน บริษัท ไฮดู เบสท์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารโครงการ Trust City (ทรัสต์ ซิตี้) เมืองส่งเสริมการค้าและศูนย์แสดงสินค้าครบวงจร เปิดเผยว่า เพื่อสร้างธุรกิจสตาร์ตอัพสำหรับกลุ่มธุรกิจคนรุ่นใหม่ในเมืองไทย ให้กลายเป็นธุรกิจที่มีความมั่นคงและมีโอกาสทางการค้ากับผู้ซื้อจากทั่วโลก บริษัทจึงได้เปิดตัวโครงการ Trust City ซึ่งเป็นเมืองศูนย์การค้าระดับโลก บนพื้นที่กว่า 370 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณถนนบางนา-ตราด กม.29 มูลค่าการลงทุน 100,000 ล้านบาท
โดยโครงการทรัสต์ ซิตี้ ต้องการพัฒนาค้าส่งแบบเดิม ๆ ที่กระจัดกระจาย อยู่ตามทำเลโบ๊เบ๊ ประตูน้ำ สำเพ็ง พาหุรัด แม้แต่ย่านพระเครื่องอย่างแถวเสาชิงช้า มาอยู่ในที่เดียวกัน เพื่อความสะดวกสบาย ครบวงจร และเป็นแหล่งรวมสินค้าจากทั่วโลก เพื่อดึงดูดให้เกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยนของผู้ซื้อจากทั่วโลกให้มาเลือกซื้อสินค้าจากที่นี่ที่เดียว โดยในโครงการประกอบด้วย ศูนย์นำเข้า-ส่งออกสินค้ากว่า 25,000 บริษัท หรือ 25,000 ร้านค้า, ศูนย์การประชุม และศูนย์การแสดงสินค้านานาชาติ, FinTech City ที่รวมของธุรกิจด้านการเงิน, โรงแรม และคอนโดมิเนียม ซึ่งคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการปลายปี 2020
สำหรับเงื่อนไขการเข้ามาเป็นหุ้นส่วนกับโครงการทรัสต์ ซิตี้นั้น ผู้ประกอบการที่สนใจจะต้องเข้าเรียนผ่านหลักสูตร To Be A Global Trader ที่เปิดโดย Global Trader Academy จำนวน 8 วัน เพื่อให้มีความพร้อมที่จะขายสินค้าทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์
ทั้งนี้ หลักสูตรสร้างนักธุรกิจการค้าจะมี Global Trader Academy เป็นโค้ชและพี่เลี้ยงให้แก่ผู้ประกอบการ โดยจะเป็นหลักสูตรที่ให้ความรู้ คำแนะนำในด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินการค้าระหว่างประเทศ และดำเนินการโดยผู้มีประสบการณ์จริงจากการทำธุรกิจการค้าระดับโลก เพื่อให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ทำให้เกิดการค้าขายในเวลาสั้นลง ต้นทุนการทำงานต่ำลง และเพิ่มผลกำไร ซึ่งนำไปสู่การสร้างรากฐานธุรกิจที่มั่นคง
“หลักสูตรดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากทางมหาวิทยาลัย และโรงเรียนอาชีวะทั่วประเทศ เพื่อสร้างนักธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ”
ทุ่ม5หมื่นล้านผุด “ทรัสต์ซิตี้บางนา” พร้อมปั้นมหาชัยเมืองแห่งการบินเบสท์โอเชียนกอล์ฟและสถาบันการบินเอเชียแลนด์ลอร์ดรายใหญ่ย่านบางนาและมหาชัย ดึง “ประวิทย์ จุลวัฒนพงษ์” เลขาฯกรรมาธิการการพาณิชย์ สนช.นั่งที่ปรึกษาคณะกรรมการหวังเร่งเดินหน้าหาผู้ร่วมลงทุนพัฒนาโครงการ “ทรัสต์ซิตี้” บนพื้นที่ 3 พันไร่ย่านบางนาและพัฒนาสนามบินมหาชัย คาดลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านเพื่อสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจของไทย
นายประวิทย์ จุลวัฒนพงษ์ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรมและการแรงงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าได้รับเกียรติจากนายสิทธิชัย เจริญขจรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบสท์ โอเชียนกอล์ฟ จำกัด เจ้าของโครงการเบสท์โอเชียนกอล์ฟและสถาบันการบินเอเชีย “Best Ocean Airpark” ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ย่านบางนา ให้ไปทำหน้าที่ที่ปรึกษาคณะกรรมการเพื่อผลักดันโครงการต่างๆของบริษัทที่มีแผนระดมทุนพัฒนาโครงการทั้งในโซนพื้นที่บางนาและโซนมหาชัย
นอกจากนั้นบริษัทยังมีแผนขยายโครงการมหาชัยแอร์พอร์ตลักชัวรี่ ให้เป็นเมืองแห่งสนามบินใหม่ และสปอร์ตคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ ประกอบด้วยสนามบินไปรเวทเจท(Private Jet) สำหรับรองรับเครื่องบินส่วนตัวและเครื่องบินเช่าเหมาลำ เพื่อเป็นสนามบินแห่งที่ 3 ของกรุงเทพมหานคร เนื่องจากปัจจุบันสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิมีความหนาแน่น ไม่สามารถที่จะขยายได้มากกว่านี้
ประการสำคัญยังมีแผนพัฒนาสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ให้เป็นเมืองแห่งการกีฬาซึ่งมีสนามกอล์ฟขนาดมาตรฐาน 36 หลุม สนามกีฬาต่างๆ อาทิ สนามฟุตบอล สนามเทนนิส สระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิก รวมทั้งศูนย์ออกกำลังกายทุกประเภท และศูนย์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนานาชาติ โรงแรม รีสอร์ต หมู่บ้านที่อยู่อาศัยระดับไฮเอ็นท์
“ทั้ง 2 โครงการคาดว่าจะต้องใช้งบลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาทเพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยอยู่ระหว่างการเร่งระดมทุนจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้เมื่อเปิดให้บริการจัดว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญในพื้นที่บางนาซึ่งใกล้สนามบินสุวรรณภูมิและโซนมหาชัยที่บริษัทยังมีแผนเข้าไปร่วมลงทุนกับการรถไฟแห่งประเทศไทยในโครงการรถไฟสายสีแดงเชื่อมหัวลำโพง-มหาชัยอีกด้วย”
“ทรัสต์ ซิตี้” ผุดโปรเจคใหม่ดึงสตาร์ทอัพเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ
Trust City (ทรัสต์ ซิตี้) เมืองส่งเสริมการค้าและศูนย์แสดงสินค้าระดับโลกที่ยิ่งใหญ่และครบวงจร ทั้งนำเข้าและส่งออกจากทั่วโลก ที่มีมูลค่าโครงการสูงถึงกว่า 100,000 ล้านบาท ประกาศแผนใหม่ดึง “สตาร์ทอัพ” ร่วมทำธุรกิจเป็นหุ้นส่วน สร้างบริษัทเทรดเดอร์กว่า 25,000 ร้าน พร้อมย้ำเปิดให้บริการเฟสแรกแน่ภายในปี 2563
สิทธิชัย เจริญขจรกุล ประธาน บริษัท ไฮดู เบสท์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารโครงการ Trust City (ทรัสต์ ซิตี้) เมืองส่งเสริมการค้าและศูนย์แสดงสินค้าระดับโลกที่ยิ่งใหญ่และครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับแผนธุรกิจใหม่ จากเดิมที่จะเน้นขายพื้นที่ให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมมาทำธุรกิจในโครงการทรัสต์ ซิตี้ แต่จากการศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้พบว่ากลุ่มสตาร์ทอัพ หรือ กลุ่มธุรกิจคนรุ่นใหม่ในประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตดีกว่า ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่จะสนับสนุนและเปิดเป็นเวทีให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่อยากเปิดบริษัทเป็นของตัวเองรวมกว่า 25,000 บริษัท หรือ ร้านค้า
ทั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนและผลักดันให้ธุรกิจสตาร์อัพเติบโตได้อย่างมั่นคง บริษัทจะเข้าไปเป็นหุ้นส่วนธุรกิจด้วยในสัดส่วนการถือหุ้น 30% ส่วนอีก 70% เป็นของสตาร์ทอัพ ขณะที่เงื่อนไขการเป็นหุ้นส่วนกับ ทรัสต์ ซิตี้ จะต้องเรียนผ่านหลักสูตร To Be A Global Trader หรือหลักสูตรสร้างนักธุรกิจการค้าระดับโลก ภายใต้ GLOBAL TRADER ACADEMY เป็นหลักสูตรที่ให้ความรู้ คำแนะนำในด้านต่างๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินการค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้สตาร์ทอัพต้องมีความพร้อมที่จะขายทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยสามารถสมัครขอร่วมทุนกับ Trust City Holding Co.,Ltd. เปิดเป็นบริษัทที่เน้นการนำเข้า และส่งออกสินค้า หรือบริการ และจะต้องเช่าร้านแสดงสินค้าใน Trust City Trader Hub เป็นการเช่า 30 ปี ฯลฯ ทั้งนี้การเปิดตัวบริษัทสตาร์ทอัพจะต้องมีทุนจดทะเบียนที่ 1 ล้านบาท
ส่วนการสมัครนั้นต้องสมัครผ่านช่องทาง trust.city,www.trustcitythailand.com เท่านั้น เพื่อให้ง่ายต่อการคัดแยกประเภทสินค้าที่สตาร์ทอัพต้องการจะขาย โดยจะเริ่มเปิดจองพื้นที่อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ขณะที่ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเป็นผู้ร่วมทุนกับ ทรัสต์ฯ หากเงินทุนไม่พอ เราก็มีบริการทางการเงินปล่อยสินเชื่อให้อีก สูงสุด 500,000 บาท หน้าที่ของทรัสต์ฯในฐานนะหุ้นส่วนเล็ก นอกจากจะสนับสนุนเงินลงทุนในสัดส่วนที่ถือหุ้น 30% หรือประมาณ 300,000 บาท ยังจะคอยเป็นที่ปรึกษาให้กับสตาร์ทอัพด้วย เพื่อให้เติบโตไปพร้อมกัน
สำหรบโครงการ “Trust City (ทรัสต์ ซิตี้)” World Exhibition & Largest Fintech Hub ถูกสร้างขึ้นด้วยแนวคิดที่ต้องการพัฒนาการค้าส่งแบบเดิม ๆ ที่กระจัดกระจาย เช่น โบ๊เบ๊ ประตูน้ำ สำเพ็ง พาหุรัด แม้แต่ย่านพระเครื่องอย่างแถวเสาชิงช้า มาอยู่ในที่เดียวกัน มีความสะดวกสบาย ครบวงจร และทันสมัยที่สุดในโลก นอกจากตลาดในประเทศแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมสินค้าสำเร็จรูป และวัสดุที่เกี่ยวเนื่องจากทั่วโลก อาทิ สินค้าวงการแฟชั่น นอกจากเสื้อผ้าก็ยังมีวัสดุอุปกรณ์ เช่น กระดุม หรืออุปกรณ์อื่นๆจากแบรนด์ชั้นนำ เป็นต้น ภายใต้มาตรฐานการจัดการระดับสากล เพื่อดึงดูดให้เกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยนของผู้ซื้อจากทั่วโลกให้มาเลือกซื้อสินค้าจากที่นี่ที่เดียว โดยในโครงการประกอบด้วยศูนย์นำเข้า-ส่งออกสินค้ากว่า 25,000 บริษัท หรือ 25,000 ร้านค้า, ศูนย์การประชุม และศูนย์การแสดงสินค้านานาชาติ, Fintech city ที่รวมของธุรกิจด้านการเงิน, โรงแรม และคอนโดมิเนียม
“การลงทุนของโครงการ ทรัสต์ ซิตี้ เบื้องต้นเฟสแรกใช้งบลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท ในพื้นที่ 370 ไร่ รวมกว่า 1.5 ล้านตร.ม. คาดก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นไปตามแผนภายในปี2563 และหลังจากนั้นจะดำเนินโครงการเฟสสองต่อ โดยจะเป็นเอาท์เลท และ สวนสนุก เงินลงทุนเฟสสองยังไม่สามารถเปิดเผยได้” สิทธิชัย กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น